วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2558

Just another hottestday

Happy birthday to me completly 22


ครูในหมวด: ชื่อเย็นแล้วใจเย็นสมชื่อรึเปล่า??

Me: ไม่ค่ะ!!! ตอบเต็มปากเต็มคำ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------
???: ชื่อเย็นเหรอ ใจเย็นแน่เลย

Me: ไม่ค่ะ!!! ตอบทันทีทันควัน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

ครั้งแรกๆที่มีคนถามยังเคยคิดนะ ว่า เอ๊ะ!!เราใจเย็นรึเปล่า น่าจะใช่นะ เราคงใจเย็นแหละงมั้ง แต่พอมาบำเพ็ญธรรมถึงได้คำตอบให้ตัวเองกับคำถามนี้ และสามารถตอบออกไปอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า ไม่!!! จริงๆแล้วเราไม่ได้ใจเย็นเลย เราโคตรจะใจร้อน ขี้หงุดหงิด โหวกเหวก โวยวาย หวายยยยยยยยยยยยยยยยย นิสัยแบบนี้ยังเป็นคนได้อีกเหรอ เมื่อก่อนไม่เคยจะคิดย้อนมองตัวเองเลยว่า เราทำอะไรอยู่,เราเป็นแบบไหน,เราทำแบบนี้ดีแล้วยังนะ,เราทำแบบนี้เห็นแก่ตัวไปมั๊ย,เราทำแบบนี้ได้เหรอ,คนอื่นทำแบบนี้ไม่ได้นะ ต้องทำแบบที่เราคิด พอไม่ได้ดั่งใจก็โวยวาย

นี่!!!

มันแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ เพิ่งผ่านมา1ปีกับการบำเพ็ญธรรม จากการเขียนบล็อกที่แล้ว  การได้ทบทวนเรื่องราวของตัวเองทำให้รู้ว่าตัวเองอะไรหลาpอย่าง ตอนนี้ก็แก้อยู่ อาจจะได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ต้องขอบคุณคนรอบๆข้าง ที่ช่วยกันขุดสันดร สันดาน ถอนรากถอนโคนสิ่งที่ไม่ดีออกมา ตอนนี้ยังแซะได้แค่ราก เพราะมันฝังลึกมา22ปีแล้ว แต่เราเชื่อว่าไม่นาน เราต้องทำได้ ก็นะ!!!มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ถ้าต้องสอนคนอื่นแต่ตัวเองยังทำได้ไม่ดี (น่าน!!!โดนแซะแล้วไงหล่ะท่านผู้อ่าน)
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

อีก1ปีข้างหน้านี้ เราจะต้องเป็นคุณครู เป็นคุณครูจริงๆสอนอยู่ในโรงเรียน 1ปีแหน่ะ ถ้าให้พูดตอนนี้เราก็ว่านานมากๆเลยนะ แต่ก็นะ ขนาดเรียนครู4ปี ยังแป๊บเดียว เริ่มต้นอายุ 22 ด้วยการเป็นนิสิตฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู เย่ จะสนุกสนาน โศกเศร้าเคล้าน้ำตาแค่ไหนหล่ะ บทบาทใหม่ของปณิดา
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เริ่มต้นวันเกิดของตัวเองก็เริ่มเวิ่นเว้อ มโน อีกแล้วเนอะ พอก่อนดีกว่า ขอบคุณเหลาหมู่ที่ให้จิตญาณได้ลงมาบำเพ็ญอีกครั้ง ขอบคุณพ่อแม่ที่ให้กายสังขาร ขอบคุณพ่อแม่และทุกคนในครอบครัวที่เลี้ยงดูมา ขอบคุณแม่มากที่รักเรามาก("ถ้าลูกไปอยู่บ้านที่หาดใหญ่แม่ก็ต้องอยู่บ้านคนเดียวอีกน่ะสิ" แม่อ้อนไว้) ขอบคุณครอบครัวบำเพ็ญธรรมทุกคนที่ช่วยกันล้างสมองให้ (ล้างเอาความคิดที่ไม่ดีออกไปให้หมด ขอบคุณพระอาจารย์ที่มาอวยพรวันเกิดให้เมื่อปีที่แล้วปีนี้มาอีกก็ได้นะคะ และท้ายสุดขอบคุณคนอ่านนะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ (ถ้ามีนะ me/// ไง) สวัสดีวันที่ร้อนที่สุดในประเทศไทยเมื่อ22ปีที่แล้ว

 
ดูชื่อคนร้องสิ ><///

วันอาทิตย์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2558

หนึ่งปีแล้วกับการบำเพ็ญธรรม คุณเห็นเราเปลี่ยนแปลงไปบ้างอย่างไร???

ครบรอบหนึ่งปีแล้ว
                                                                         

   การบำเพ็ญธรรมในธรรมกาลยุคขาว ต้องรับธรรมะก่อนแล้วจึงบำเพ็ญทีหลัง แต่เรารู้สึกว่าตัวเองโชคดี
มากกกก ที่ได้เริ่มบำเพ็ญก่อน ได้ฝึกพุทธระเบียบก่อนแล้วจึงรับธรรมะทีหลัง รู้สึกโชคดีจริงๆ ขอบคุณคุณแอนและฟู่ถันจู่ ที่เป็นอาจารย์นำพารับรองให้ตอนนั้น ขอบคุณโรงแรมที่ภูเก็ตและเมทผู้ร่วมประสบการณ์ห้อง607 ฟินฟิล์มและแอน ขอบคุณความทุกข์ที่พาเรามาหาธรรมะ ที่สำคัญต้องขอบคุณอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมเมตตาและฟ้าเบื้องบนที่ทำให้ผู้น้อยได้พบกับวิถีอนุตรธรรมอันล้ำค่านี้
   เราเข้ามาสถานธรรมครั้งแรกคือวันเปิดสถานธรรม ได้รู้จักกับวิถีธรรม จากนั้นจึงได้เข้ามาเริ่มเรียนพุทธระเบียบ เริ่มกินมังสวิรัติ จากคนที่ไม่เคยกินผักเลยกินแต่หมูทอด จนกลายมาเป็นคนที่กินมังสวิรัติตลอดชีวิต ลองคิดดูสิว่า ธรรมะนั้นล้ำค่าแค่ไหน ธรรมะนั้นสามารถเปลี่ยนเราได้ขนาดไหน
   ได้ลองใช้ชีวิตให้มีประโยชน์มีคุณค่า จากเดิมเรียนเสร็จแล้วกลับมานอน เช่านิยายข้างล่างหอมาอ่าน อ่านนิยายวันนึง2-3เล่ม พอลองมองย้อนกลับไปรู้สึกว่าตัวเองใช้เวลาได้ไร้ค่าจริงๆ

ใครจะคิดว่าจะได้เป็นพิธีกรเอก
 
ใครจะไปคิดว่าการบำเพ็ญธรรมจะมีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะมากมายขนาดนี้ เคยคิดว่าบำเพ็ญธรรมต้องน่าเบื่อ เรียนธรรมะต้องน่าเบื่อ ปฏิบัติตามพุทธระเบียบยิ่งแล้วใหญ่ เพราะปกติเป็นคนชอบแหกกกกกกกก กฎ!!! แต่ไม่ใช่เลย การบำเพ็ญในธรรมกาลยุคขาวไม่ใช่แบบนั้น มีกิจกรรมสนุกสนานร่วมกับญาติธรรม เรียนธรรมะไปร้องเพลงไป มีการแสดงละครธรรมะ เทศกาลกินเจ งานถวนเหนียน เวลามีงานธรรมะทุกคนรวมใจกัน รู้สึกเหมือนมีครอบครัวใหม่อีกครอบครัวหนึ่ง เป็นครอบครัวที่รู้จักกันมานาน แค่รอวันที่กลับมาเจอกันอีกครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง
 
ซ้อมงานถวนเหนียน(ปีใหม่)
1ปีแล้วที่เข้าสู่การบำเพ็ญ 1ปีแล้วที่ได้บวชจิต 1ปีแล้วเราฉุดช่วยเวไนยไปได้แค่ไหน 1ปีแล้วที่ได้ลองฝึกตัวเอง 1ปีที่แล้วเราเป็นแบบไหน แล้วตอนนี้เราเป็นอย่างไร เราเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน เราดีขึ้นหรือแย่ลง เอ๊ะ!!! ต้องดีขึ้นสิ 1ปีแล้วกับการดำเนินงานธรรมะอันรวดเร็วไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ถึงขนาดนี้ ต้องขอบคุณอาวุโสธรรมทุกท่านที่ช่วยหนุนส่ง ขอบคุณบุคลากรฟ้าทุกๆคน และที่สำคัญอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมเมตตา ที่คอยเมตตามาตลอด
 
งานเปิดสถานธรรมที่หาดใหญ่
 
  แค่หนึ่งปีในการบำเพ็ญธรรมเทียบไม่ได้แม้แต่เศษหนึ่งเสี้ยวใดเลยของพระพุทธะทั้งหลาย เพราะฉะนั้นครบรอบหนึ่งปีที่รับธรรมะ เป็นแค่การเตือนตัวเองเท่านั้นว่า 1ปีแล้วนะ เธอน่ะบำเพ็ญธรรมไปได้ถึงไหนแล้ว??? อยากเขียนเพื่อเตือนตัวเองเท่านั้นเอง สำหรับใครที่หลงเข้ามาอ่านถ้ารับธรรมะแล้วอยากให้มาเรียนธรรมะบ้าง มาสถานธรรมบ้าง มาบำเพ็ญธรรมบ้าง หากท่านใดยังไม่ได้รับธรรมะ ลองเข้ามาศึกษาที่สถานธรรม มารับรู้สัจธรรมจริง เพื่อหลุดพ้น เพื่อกลับสู่แดนนิพพาน เราเชื่อเหลือเกินว่า คงไม่มีใครอยากจะมาเกิดในโลกอันวุ่นวายนี้อีกแล้ว ***ที่สำคัญวันที่ 18-19เมษายน 2558นี้ สถานธรรมที่หาดใหญ่(ตรงข้ามโรงเรียนญ.ส) มีการจัดชั้นมหาชาติ ทั้งหมด2วัน มีอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรมและคณะเดินทางมาจากไต้หวัน เข้าร่วมชั้นและร่วมบรรยายด้วย คงจะหาโอกาสพิเศษแบบนี้ได้ยาก อยากเรียนเชิญอาวุโสธรรมทุกท่าน ทั้งญาติธรรมเก่าที่เคยรับธรรมะแล้วและญาติธรรมใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับรู้สัจธรรมแท้ครั้งนี้มาขึ้นเรือธรรมไปพร้อมกันค่ะ***
 
 

 
  
 

วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Lipe Paradise Island ความคิดเปลี่ยน...ที่หลีเป๊ะ

เปิดเพลงนี้เบาๆก่อนอ่านบล็อกแล้วไปทะเลด้วยกันนะ
                          เป็นอีกครั้งที่การออกทริปวิชาของอาจารย์ธร ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป 11-13 กุมภาพันธ์ 2557 ทริปหลีเป๊ะ ครั้งนี้ไปกับเพื่อนทั้งหมด30คน มีอาจารย์ผู้ดูแลที่แสนน่ารักและใจดี2คน คืออาจารย์ธรและอาจารย์เกร็ดทราย เริ่มต้นออกเดินทาง8โมงเช้าจากม.ทักษิณ ไปถึงท่าเรือปากบาราประมาณ11โมง เรานี่รีบกินยาเมาเรือเพราะกลัวเป็นแบบตอนไปมาเก๊า ที่ปวดหัวตลอดทาง ทำให้เที่ยวไม่สนุก ปรากฎว่า น๊อคยาเมาเรือพอถึงที่พักบนหลีเป๊ะหลับเป็นตาย.... โดยมาค้นพบความจริงทีหลังว่า ไม่กินยาเมาเรือจะดีกว่า
เกาะตะรุเตา

ก่อนจะถึงหลีเป๊ะเราได้แวะเกาะตะรุเตากับเกาะไข่ ก่อนไปตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเกาะตะรุเตาเพราะเคยดูหนังจากช่องThaipbsและอ่านหนังสือประวัติศาสตร์เรื่องที่เกาะนี้เคยเป็นที่คุมขังนักโทษการเมืองมาก่อน และยังเป็นที่กำเนิดพจนานุกรมจาก สอ เศรษฐบุตรอีกด้วย ปรากฎว่าพอไปถึง มึนยาเมาเรือมาก แล้วคนเรือยังให้เวลาแค่15นาทีอีกเลยได้แค่เดินสักการะศาลเจ้าพ่อตะรุเตาและเดินเล่นหน้าหาดเท่านั้น 

มาที่จุดพีคที่ดีกว่า จุดพีคของทริปนี้คือการดำน้ำดูปะการัง เราที่ว่ายน้ำไม่เป็นและกลัวน้ำอย่างถึงที่สุดแถมสายตาสั้นตั้งใส่แว่นอีกต่างหาก แต่อยากดำน้ำกับเค้าบ้าง ทริปนี้ดำน้ำทั้งหมด3จุด เราได้ลงแค่จุดเดียว แถมยังเป็นจุดที่น้ำแรงที่สุดน้ำเชียวที่สุด เหนื่อยที่สุดอีกด้วย

เริ่มต้นที่เกาะหินงาม หินงามสมชื่อจริงๆ ที่ๆนักท่องเที่ยวจะไปซ้อนหินแล้วอธิษฐานกัน ตอนนี้มีกฎห้ามซ้อนหินแล้ว เพราะเมื่อซ้อนหินแล้วทำให้หินแตกและทำให้ทัศนียภาพไม่สวยงาม เรานี่เพิ่งอ่านรีวิวไปเลยว่าต้องเรียงหิน12ก้อนแล้วอธิษฐาน อดสิครับ!!! นอกจากอดเรียงหินแล้วยังโดนหินบาดอีก ขอขนานนามเกาะแห่งนี้ใหม่ว่า ''เกาะหินบาด'

จุดเกิดเหตุ
เจ็บเลย















จุดดำน้ำแรกอยู่ใกล้ๆกับเกาะหินงาม เป็นจุดเริ่มต้นของการดำน้ำ ดำแค่ผิวน้ำเพราะตื้นและดำง่ายเหมาะแก่การเริ่มต้นกิจกรรมเริ่มต้นดำน้ำของวัน เรานี่เพิ่งโดนหินบาดมาแส๊บบบบ แสบ อดลง ได้แค่ดูเพื่อนแหวกว่ายน้ำใส๊สสส ใสอยู่บนเรือ

เลือดไหลไม่หยุดต้องอุดไว้
จุดดำน้ำที่2 ร่องน้ำจาบัง น้ำลึกมาก ปะการังสวยมาก (เพื่อนบอกมา) แน่นอนว่าอดลง เมื่อเพื่อนๆดำน้ำกันอย่างสนุกสนานเสร็จ ก็ถึงเวลาข้าวเที่ยงพอดี เราไปกันที่เกาะอาดัง-ราวี ระยะทางค่อนข้างไกลพอสมควร ระหว่างกินลมชมธรรมชาติก็คิดขึ้นมาได้ว่า

'นี่คิดมาตลอดว่าตัวเองชอบเที่ยวในเมือง ชอบความศิวิไลซ์ จนวันนี้ล่องเรือรอบเกาะหลีเป๊ะ ไปตามจุดดำน้ำต่างๆ ถึงแม้จะเจ็บตั้งแต่ที่แรกที่ไป 'เกาะหินบาด' เอ๊ย!! ไม่ใช่ เกาะหินงาม จุดดำน้ำข้างเกาะหินงามและร่องน้ำจาบังซึ่งเป็นไฮไลท์ของทริปก็ไม่ได้ลง แต่ยังนั่งฟินอยู่บนเรือได้ ระหว่างทางในทะเล สวยงาม มองไปสุดลูกลูกตา ไม่มีเบื่อ ไม่เหมือนในเมืองมองไปไหนก็เห็นแค่ตึก รถราผู้คนวุ่นวาย ชอบธรรมชาติแบบนี้ ไม่คิดว่าหลีเป๊ะ จะทำให้ความคิดเปลี่ยนขนาดนี้ ตอนนี้เรือกำลังมุ่งไปเกาะราวี เพื่อทานข้าวเที่ยง ที่สำคัญรีสอร์ททำกับข้าวมังสวิรัติให้ด้วย #ดีจริง ข้าวกะเพราเห็ดกับเพื่อนๆ ท่ามกลางหมู่เกาะ น้ำทะเลใสๆ สีงี้ไล่ระดับ หาดทรายสีขาวละเอียด นุ่มเท้า อะไรจะสุขใจไปกว่านี้ 12.02 12/02/2558'


นี่ถ้าเก่งกว่านี้เกิดเป็นนิราศหลีเป๊ะแล้ว5555 เมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับทะเลทั้งวันทำให้เพิ่งรู้ตัว ว่าจริงๆชอบแบบนี้มากกว่าจริงๆ เรากินข้าวถ่ายรูปพักผ่อนกันที่เกาะอาดัง-ราวีอยู่น๊านนนนน นานนนน แต่ฟินมาก เพราะทะเลสวย น้ำใสจริงๆ
with my buddy

3สตรีศรีฝอถังที่เกาะอาดังราวี
หลังจากออกจากเกาะอาดัง-ราวี ก็ไปถึงจุดน้ำจุดที่3 เรานี่ดีใจมากกกก เพราะเลือดเริ่มหยุดแผลเริ่มหายแล้ว จะได้ลงน้ำกับเพื่อคนอื่นเค้าบ้าง ปรากฎว่าหายใจทางสนอกเกิลไม่เป็น ลำบากมากเลยทีเดียว ขอบคุณฟินฟิล์มพาลากไปทั่วทะเล รู้ตัวอีกที ออกห่างจากเรือมามาก หมดแรงที่จะดำน้ำต่อแล้ว ขอกลับดีกว่า ตอนมานี่รวดเร็วทันใจ แต่ขากลับนี่ทำไมว่ายไม่ไปซักที ต้องขอบคุณ และขอโทษฟินฟิล์ม ที่ทั้งลาก ทั้งฉุด ทั้งดึง กลับไปถึงกับน็อคเลยทีเดียว ขอบคุณป๊อบที่มาช่วยอีกแรงขาเกือบเป็นตะคริวเลยทีเดียว ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ กราบบบบบบบบบบบบ

'14:37 1ช.มพอดี ลงดำน้ำครั้งแรกที่เกาะยาง ไม่หรอก จริงๆต้องเรียกว่าเกาะฟิล์ม เพราะเกาะฟิล์มตลอดทาง ต้องขอบคุณป๊อบอีกแรงที่ช่วยพาน้องโวยวายกลับมาส่งที่เรือจนได้ ป๊อบกับฟิล์มต้องเหนื่อยมากมายจริงๆ ขอบคุณ'

เป็นอีกครั้งที่หลังจากกลับจากกทริปอาจารย์ธรแล้วต้องกลับมาเขียนบล็อก ขอบคุณพี่เติ้ลผู้จัดทริป ต้องหัวหมุนจัดการทุกๆอย่าง เก่งมากๆ ขอบคุณอาจารย์ ขอบคุณเพื่อนๆที่ทำให้ทริปนี้สนุกสนาน ได้ประสบการณ์ใหม่และได้ใช้เวลาร่วมกัน ขอบคุณทะเลสตูลที่ทำให้ความคิดเปลี่ยนไป ครั้งหน้าถ้าจะจัดทริปคงนึกการเที่ยวธรรมชาติเป็นอย่างแรก
เอเลี่ยนปะทะโปรเฟสเซอร์

คนสวยหน้าเกาะ

ED.ENG

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

ตอบคำถาม100ข้อ ย้อนวัยกัน

1.ชื่อไรอะ - เย็น
2.ทำไมถึงชื่อนี้อะ - เกิดวันที่ร้อนที่สุด 
3.แล้วชอบชื่อนี้รึเปล่า - ชอบ
4.ฉายาที่เพื่อนตั้งให้ละ -มื่อก่อนหยอย ตอนนี้ไม่มีอ่ะ
5.ทำไมเป็นฉายานี่ - หัวหยอยตอนนี้ยืดแล้ว
6.เกิดวันไหน - อังคาร
7.ชื่อตัวหนังสือ A-Z เลือกมาตัวนึง - วาย
8.เลข 1-100 ชอบตัวไหนที่สุดเพราะอะไร - 7 เลขสวย
9.เลือดกรุ๊ปอะไร - โอ
10.สเปคของคุณ - มาเฟีย ชีค ตะวันออกกลาง เว่ิร์ อ่านนิยายมากเกิน
11.สิ่งที่ชอบทำแก้เซ็ง - อ่านนิยาย
12.คำพูดติดปาก - คือ...
13.คุณมีผมสีอะไร - ดำ
14. ของที่เห็นแล้วต้องซื้อ - ยาทาเล็บ
15. ข้อดีของตัวเองคืออะไร - ชอบอ่านหนังสือ (นิยาย)
16. เวลาว่างคุณจะทำอะไร - อ่านนิยาย
17. ถ้าพรุ่งนี้ต้องจากโลกนี้ไปจะทำอะไรเป็นสิ่งสุดท้าย - สวดมนต์จะได้คืนสู่เบื้องบนอย่างสบายใจ
18. คุณขับรถเป็นรึป่าว - ไม่
19. คิดว่าคุณหน้าตาดีมั้ย - ไม่
20. อยู่ม. อะไร - ม.ทักษิณ
21.คุณทำอะไรอย่างแรกในตอนเช้า - กินน้ำ
22. ถ้ามีคนชมว่าคุณหน้าตาดีจะตอบว่าอย่างไร - ไม่กล้ารับ
23. ชอบใส่แหวนป่ะ - ไม่
24. ทำไมอ่ะ - รำคาญ
25. แล้วชอบใส่นิ้วอะไร - นิ้วนางข้างซ้าย 
26. ทำไมอ่ะ - ก็ชอบ
27. ของกินที่ชอบๆๆๆเลยอ่ะ – ขนมซอง
28.ของกินที่กินไม่เป็นอ่ะ – เยอะ
29. มาม่ากับไวไวชอบกินอะไร - มาม่า
30. ตอนนี้อยากกินอะไร - อยากกินไส้กรอกชีสเยิ้มๆ ต้องรอช่วงเจ
31. สีที่คุณชอบที่สุด – ชมพู
32. ทำไมอ่ะ - เห็นเค้าชอบกัน
33. แล้วสีที่ไม่ชอบ – แสด
34. ดูหนังโรงเรื่องอะไรเป็นเรื่องสุดท้าย – โนอาห์
35. ดูกับใคร - เฟิร์นกับนพดล
36. หนังที่ชอบที่สุดล่ะ -ฮร์รี่มั้ง
37. คุณฟังเพลงอะไรอยู่ตอนนี้ - Uh-ee 
38. ใครเป็นคนร้อง - crayon pop
39. ชอบเพลงแนวไหน – บอสซ่า
40. เพลงอะไรที่คุณชอบร้อง – ตอนนี้ that's xx thai coverของวี
41. ตอนนี้ชอบเพลงอะไรที่สุด – ไม่รู้
42. นักร้องที่ชอบ – ไม่มี
44. คำทักทายเวลาเจอเพื่อน – โย่ว อันยอง  
45. ถ้าให้ไปเที่ยวคุณจะไปที่ไหน – ต่างประเทศ
46. ทำไมล่ะ – อยากออกนอกประเทศนี้แล้ว
47. ไปกับใคร – คนเดียว
48. มีแฟนคนแรกตอนอายุเท่าไหร่ – ไม่เคยมี
49. ตอนนี้มีคนที่ชอบอยู่รึป่าว – ไม่มี
50. เพราะอะไร – ไม่รู้ 
51. จากข้อ 49. เค้าเป็นคนยังไง – ไม่มีไง 
52. จากข้อ 49 50 51 เค้ารู้รึป่าวว่าคุณชอบ – รู้ได้ไงไม่ได้ชอบใคร
53. ตอนนี้เค้ากับคุณเป็นแฟนกันรึป่าว – ม่ายยยย
54. แล้วคุณคิดจะชอบคนอื่นอีกรึป่าวนอกจากเค้า – คิดสิ คิดว่าทำไมถึงไม่ชอบใครเลย
55. เคยแอบรักเพื่อนตัวเองป่ะ – เคย
56. ทำไมถึงยังเก็บเค้าไว้ในใจ – ไม่รู้
57. คุณอยากเจอคนที่คุณคิดถึงที่สุดไหม๊ เพราะอะไร – อยากเจอเพราะอยากเม้าท์มอย
58. แล้วคุณเจอเค้าคุณจะพูดอะไรกับเค้า – ว่าไง
59. สถานที่ที่อยากไปกับคนคนนั้น - กับใคร? ออกทริป เที่ยว ตปท.
60. ถ้าเกิดต้องโดนบอกเลิก – ก็คงดีเพราะแสดงว่าต้องมีการบอกรักเกิดก่อนหน้านั้น
61. คำสารภาพรักกับคนที่ชอบอ่ะ - ไม่เคยมี
62. อยากบอกรักใครมั้ย - เหล่าซือ ต้าซือ
64. ตอนนี้คุณรอคนนั้นโทรมาเหรอเปล่า - ไม่ 
65. ถ้าว่างมากคุณจะโทรหาใครคนแรก – ไม่โทร
66. วาเลนไทน์ปีหน้าจะให้อะไรกับคนที่ชอบหรอ – ไม่ชอบใคร
67. ความทรงจำแย่ๆในวันวาเลนไทน์ – ถือดอกกุหลาบที่เพื่อนให้ แล้วเพื่อนแซวว่าผช.ให้ เอาจริงๆคือเพื่อนสนิทผญ.
68. ตอนนี้คุณอยากได้อะไรมากที่สุด - คอนแทคเลยส์สีเทา
69. มีคนมาชอบคุณรึป่าวเนี่ย – ไม่รู้
70. กี่คนอ่ะ - ไม่รู้
71. สมมุติคนที่ชอบทำไรให้แล้วคุณประทับใจมากที่สุด - มุดๆ 
72. ของที่เราหวงที่สุด – แอคเค้าท์ทวิตเตอร์
74. เหตุการณ์ที่โรแมนติกที่สุดในชีวิต - ไม่มี75. เกลียดคนแบบไหนมากที่สุด – ปากหมา พึ่งพาตัวเองไม่ได้ ตัวเองชัดๆ
76. คนที่ไม่อยากจะคุยในตอนนี้ – ทุกคน
77. เรื่องอะไรที่คุณคิดว่าน่าเจ็บใจที่สุด - ตอบผิดทั้งที่รู้คำตอบที่ถูก
78. เพื่อนแอบชอบแฟนเราอยู่จะทำยังไง – ปล่อยมันไป
79. เพื่อนแอบคบกับแฟนเราจะทำยังไง – บอกให้เลิกแอบให้คบกันไปเลย
81. เคยอกหักป่ะ – ไม่
82. อกหักครั้งที่เจ็บที่สุดล่ะ - ไม่มี 
83. เรื่องที่อยากจะลืม – ม่นะ อยากจำหมดทุกช่วงเวลา
84. สิ่งที่อยากพูดมากที่สุด - ไม่มี
85. กลัวความมืดมั้ย - กลัว
86. กลัวแมลงสาบมั้ย– ไม่
87. สิ่งที่คิดว่าเป็นข้อผิดพลาดที่สุดในชีวิต - ตอนนี้คงเลือกเรียนศึกษาศาสตร์
88. พิมพ์ไปนี่เมื่อยมั้ย – เมื่อย
89. แล้วจะหยุดมั้ย - ไม่หยุด นอนไม่หลับ จะได้ตอบคำถามตัวเองไปด้วย
90. ตัวการ์ตูนที่ชอบมากที่สุด - โคนัน
91. ชอบเพราะไรหว่า - ฉลาด
92. ที่ทำให้คุณร้องไห้ล่ะ หนังเรื่องอะไร – หลายเรื่อง
93. ชอบหนังการ์ตูนเรื่องอะไร - โคนัน โดเรม่อน อิ๊คคิวซัง
94. ชอบหนังเรื่องอะไร – แฮร์รี่
95. นักแสดงชายสุดโปรด – ตอนนี้คงพระเอก Emergency man & woman ซึ่งไม่รู้ชื่อ55
96. นักแสดงหญิงสุดโปรด - ไม่รู้
97. ถามไรต่อดีล่ะ – ไม่รู้
98. สิ่งไหนที่คุณทำแล้วคิดว่าท้อที่สุด – ตั้งใจเรียนมากกกแต่เกรดเหียกมาก วิชาเอก
99. จะข้อที่ 100 แล้วนะ - เย่ๆๆ
100. หลังจากทำแท็กนี้จะทำไรต่อ - อัฟบล็อก นอน

        เคยเล่นแท็กนี้สมัยมัธยมในเว็ปเด็กดีหลายปีมาแล้ว วันนี้นอนไม่หลับเลยลองเปิดดู เจอกระทู้ที่ให้ตอบคำถามเลยลองเล่นดู เวลากลับมาอ่านคงจะตลกดีเนอะ ตอบคำถามไปก็ถามตัวเองไป ได้ทบทวนตัวเองไปอีกระดับนึง
     ป.ล ที่เลือกสีและไฮไลท์นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยนะ เลือกมั่วๆ ไม่เน้นสวยงาม
**อยากเขียนบล็อกเรืองเริ่มกินมังสวิรัติแล้ว แต่รูปถ่ายยังไม่พร้อม

วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557

The bucket list,,,Welcome 2014

อยู่ๆก็รู้สึกอยากเขียนบล็อคขึ้นมา วันนี้เป็นวันที่4ของปี2014 เวลา 2.30

ความจริงสมควรที่จะต้องอ่านหนังสืออยู่ แต่เผอิญท่องเน็ตไปเรื่อยๆ เจอรูป before i die เยอะมาก

ส่วนหนึ่ง เอิ่มไมเลือกรูปนี้ อิอิ
 ทำให้คิดถึงthe bucket list ของตัวเอง คือเขียนไว้เยอะมาก เยอะเกิน บางคนเขียนแค่10ข้อเอง

                 แต่พอเราได้ขีดค่า ข้อความในbucket list แล้ว

                    รู้สึกดีใจ

                      เออ... เราทำได้ด้วย

                        มีความสุข ที่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำสิ่งที่ฝันไว้

                           ถึงแม้บางคนจะมองว่าเป็นสิ่งพร่ำเพ้อ

                              มโน

                                ฝันเฟื่อง

  แต่ก็ใช่หนิ มันคือความฝันของเรา ทำไมเราจะฝันไม่ได้ ตีกรอบความคิดตัวเองทำไม

                                      ขอบคุณฟินฟิล์ม วาดรอฟ ที่ชวนให้มาเขียนbucket listด้วยกัน

                                            จะเขียนให้เอียงเพื่อ????

Happy New Year To All Of You In 2014

วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ประสบการณ์ใหม่ โหด มันส์ หลอน

7/12/13 ทริปภูเก็ตกับอ.ที่ปรึกษาสุดหล่อ คิดว่าจะจนจำทริปนี้ไปอีกนาน เพราะอารมณ์พีคหลายตอน สมองคงจะบันทึกไว้ในความจำระยะยาวกับทริปกับเพื่อนศึกษาศาสตร์เอกภาษาอังกฤษครั้งแรก
ส่วนของเรื่องเที่ยวเนี่ย ดองไว้ในครั้งต่อไปดีกว่า เพราะมีเรื่องที่แซ่บกว่านั้นจะนำเสนอ(เอ๊ะ...แซ่บเหรอ)
     เข้าเรื่องของเราซักที เรื่องที่จะเล่าคือประสบการณ์หลอนของเราครั้งแรก ที่สัมผัสได้ ได้ยิน ได้กลิ่น ต้องขอบคุณ my budder & roomate มิซากิ37(นามสมมติ) และ my buddy แสนน่ารักของเรา (ยังอยากได้หนังสือธรรมมะอยู่นะ กิกิ)ที่ร่วมด้วยช่วยกันกลัว ร่วมกันปิด เพราะกลัวว่าเราจะหลอน ช่วยกันทักจนรู้สึกได้ไปพร้อมๆกัน อุ...ต๊ะ ขนลุกอ่ะ
     วันแรกของทริปภูเก็ตเราไปถึงโรงแรมประมาณทุ่มกว่า โรงแรมที่เราไปพักมีขนาดใหญ่ 18ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางเมืองภูเก็ต ก่อนไปเราก็เช็ครีวิว ในพันดริฟเรียบร้อยว่าโรงแรมเป็นยังไงบ้าง ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า ไม่มีสายฉีด อีกแล้วเหรอ??? พอไปถึงเราก็ให้รูมเมทไปหยิบกุญแจมาจากอ.ที่ปรึกษา เธอหยิบชั้น6มาหมดเลยจ้า เอามาแจกจ่ายกัน เพื่อที่พวกเราจะได้อยู่ชั้นเดียวกัน ห้องใกล้ๆกัน สะดวกสบาย และอุ่นใจที่มี pink lady (นามสมมติ) มาอยู่ชั้นเดียวกับเราด้วย เลยสบายใจ
บ่องตงแค่เห็นรูปยังหลอน

    มิซากิไขกุญแจเข้าไปเสียบคีย์การ์ด ให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างทำงาน เราไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่เข้าไป รอให้ไฟทุกอย่างติดหมดแล้วเข้าไป เลือกเตียงฝั่งติดกับหน้าต่าง วางของกระจัดกระจายตามสไตล์ของเรา555 ซักพักนึงบัดดี้เราก็เข้ามาในห้อง บอกว่าขอมานอนด้วยดีกว่า ห้องเดิมรู้สึกไม่ดี ไม่ปลอดภัย บัดดี้บอกว่าห้องนี้ดีรู้สึกอบอุ่นดีเนอะ ทำให้เราสบายใจว่า ห้องนี้สงสัยอบอุ่น แต่ที่ไหนได้ อบอุ่นจนร้อนกันเลยทีเดียว
 "เรื่องเกิดตอนที่เราเข้าไปฉี่แล้วชักโครกกดไม่ลง(ดีนะที่แค่ฉี่) มิซากิมาช่วยก็ไม่ได้ เลยคิดว่าจะย้ายห้องกัน ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่าจะย้ายห้องเพราะห้องน้ำ ไม่ได้คิดเรื่องอย่างอื่น แต่พอนั่งไปซักพัก พวกเรา3คน ก็ได้ยินเสียงมาจากในห้องน้ำ เสียงครืดๆ เสียงกดชักโครก(โอย...พิมพ์ไปสั่นไป) มิซากิช่วยเรียกสติเราว่า ไม่หรอก สงสัยคงเป็นเสียงจากข้างห้อง ซักพักให้บัดดี้ไปปิดประตูห้องน้ำ บัดดี้ยังไม่ทันเข้าไปปิด เสียงประตูห้องน้ำดังเอง เอี๊ยด อ๊าด 2-3ครั้ง เอิ่มมมมมม จากตอนแรกที่มีเราคนเดียวที่กลัว บัดดี้เราก็กลัวไปด้วย มิซากิทักขึ้นมาอีกว่าได้กลิ่นอะไรมั๊ย เอิ่มมมมม ตอนแรกก็ได้กลิ่นนะ แต่ไม่ได้บอกใคร พอมิซากิทักปุ๊บกลิ่นมาเลยค่ะมาเต็ม คืออยู่ไม่ไหว บอกเลยว่าตอนนั้นสติแตกมาก แต่ดีที่นัดกับเพื่อนลงไปกินข้าวพอดี เลยได้ออกจากห้องนั้น หลังจากกินข้าวพวกเรา3คนกลับมาที่ห้องพักอีกครั้ง บอกตรงๆว่าหลอน ไม่กล้าหันไปทางห้องน้ำ แล้วเตียงเราติดกับหน้าต่าง มิซากิเปิดหน้าต่างไว้ เราก็ไม่กล้าหันไป จนมิซากิต้องมาปิด กระจกที่อยู่ปลายเตียงเราก็ช่วยกันเอาเสื้อคลุมมาปิดให้หมด ตอนนั้นเราไม่กล้าแตะพื้นในห้องนั้นเลย กลัวมากกก เราทำทุกอย่างทั้งแผ่เมตตา ทั้งวางเหรียญ แต่มันรู้สึกอะไรซักอย่างตลอดเวลา จนประมาณ5ทุ่ม พี่พิงค์เลดี้โทรหาเราให้ไปนอนจ้า ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรไปแต่ตัวเฉยๆ จะให้พี่พิงค์มาช่วยไหว้ช่วยขอ แต่เมื่อพี่พิงค์เข้าไปในห้อง บอกให้พวกเราขนของไปนอนกับแกดีกว่า ซึ่งหมายความต้องนอนกันทั้งหมด5คน ตอนนั้นจะยังไงก็ยอม ของที่เราตั้งรกๆ เราสามารถเก็บได้อย่างรวดเร็ว ฮาตรงเสื้อคลุมของเรา3คนที่คลุมกระจกไว้นี่แหละ มันไม่ยอมออก พอเก็บของเสร็จก็รีบวิ่งไปห้อง611 เราถามพี่พิงค์ว่าตกลงห้องนั้นมีอะไร "นั่งกระดิกขาต้อนรับพี่อยู่บนเตียงเลย" คำนี้ยังก้องอยู่ในหัวเราจนถึงตอนนี้ ตอนนั้นขนหลังลุกเกรียวทำอะไรไม่ถูก กลัวมากจริงๆ สติหลุดไปแล้ว บัดดี้ก็ร้องไห้เพราะสัมผัสได้เหมือนกัน ส่วนมิซากินั้นรู้แต่ไม่ยอมบอก"
  เราไม่คิดนะว่าเราจะได้มีประสบการณ์แบบนี้กับเค้าด้วย มิซากิบอกว่าคงเป็นคราวเคราะห์ของเรา แต่การมีประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้เราหันมามองตัวเองใหม่ เราเปรียบเสมือนคนไม่มีศาสนา ไม่มีอะไรยึดเหนี่ยวจิตใจเลย มิซากิบอกว่าไหว้ไปแต่ใจไม่ศรัทธาก็ไม่ช่วยอะไร เราเลยจะเริ่มอ่านหนังสือธรรมะแล้วหล่ะ พอไปวัดฉลองก็เสี่ยงเซียมซีได้ว่าถ้าคิดจะเปลี่ยนอะไรในตัวเองจะเปลี่ยนได้ ซึ่งตรงกับที่เราคิดไว้มากกก เราเลยไปเช่าพระ น้องบอกว่าทำพิธีแล้วให้เอาไว้ใต้หมอนได้เลย
     ขอบคุณทริปนี้ที่ทำให้มีประสบการณ์ใหม่อีกด้านพร้อมทั้งเปลี่ยนเราให้หาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ศรัทธา และมีสติ
สวยๆที่เขาขนาบน้ำมีเจ้พิงค์เลดี้ด้วยลงได้ชิมิ

วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Zoo volunteer อาสาสมัครสวนสัตว์รุ่นที่4

ตั้งใจว่าจะอัฟบล็อกตั้งแต่วันที่ไปทำงานที่สวนสัตว์ตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ไม่มีโอกาสเลย ขอบคุณอ.นกที่ทำให้อยากเขียนบล็อกขึ้นมาอีกครั้ง เย่ๆๆ ประสบการณ์ช่วงปิดเทอมที่ผ่านมามีมากมายก่ายกองมาก แต่เริ่มจาก Zoo volunteer ก่อนแล้วกัน


เราไปอบรมกันตั้งแต่เดือนมิถุนานู่นนน แต่ได้ปฏิบัติภารกิจกันเดือนสิงหานี่เอง ซึ่งทำครบ2ครั้งแล้ว แต่วันที่6กันยานี้พี่ผึ้ง เจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาของสวนสัตว์เพิ่งโทรมาให้ไปช่วยงาน เด็กๆจากบ้านเด็กสงขลาพัฒนาปัญญาตั้ง 300คน!!!

จ๋า ฟิล์ม เรา พี่ไฟว์
พี่ย๊ะ แก้ว มด
   ตอนไปปฏิบัติงานวันแรกกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ก็ยังอุ่นใจเพราะมีพี่ย๊ะไปด้วย เริ่มงานวันแรกเรามีหน้าที่เฝ้าบัส เอิ่มมมม (พี่ย๊ะอยู่ที่การแสดงวิถีชีวิตสัตว์ป่า) หน้าที่ของเราคือคอยจดจำนวนคนที่มาเข้าชมที่มาเป็นคณะ ขอบอกเลยว่าเบื่อมากกกกก เพราะวันนั้นมีบัสมาแค่2คัน
เดียวดายที่ลานจอดรถ
  ตอนบ่ายด้วยความที่เบื่อมากเลยไปอยู่ที่การแสดงวิถีชิวิตสัตว์ป่าด้วย สนุกมากเพราะได้เจอเจ้าเจลลี่หมีขอสุดน่ารัก ไมเคิลกับราฟฟี่นกแก้วแสนรู้ ได้อยู่ดูเบื้องหลัง ดูพี่กล้วยและพี่เจมส์ปล่อยสัตว์แทนที่จะเป็นคนดูเหมือนทุกครั้ง ภารกิจวันแรกสนุกมากทำให้อยากไปอีก
ได้อยู่เบื้องหลังด้วยแหละ
จริงๆแล้วงานอาสาสมัครจะต้องไปทำในวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ช่วงนั้นตรงกับสอบพอดี เราเลยไปวันอังคารกับฟิล์ม ครั้งนี้ไม่ต้องไปเฝ้าบัสแล้วเย่ๆๆ ไปตรงกับวันที่สวนสัตว์เปิดสวนสัตว์เด็กพอดี เด็กเยอะมาก งานของเราคือคอยดูแลเด็กๆนี่เอง 

เด็กๆเยอะแยะมากมาย เต้นแข่งกันด้วย55


    ครั้งนี้มีพี่เติ้ลกับโรสมาช่วยด้วย มาช่วยกันจัดแถวเด็กๆชมการแสดงวิถีชีวิตสัตว์ป่าและโชว์ฮือฮาอย่างการให้อาหารเสือ ซึ่งเด็กๆดูตื่นเต้นมาก เป็นเราซะอีกที่กลัวเสือ และครั้งนี้ได้เจอเจ้าเจลลี่อีกแล้ว หมีขอเป็นสัตว์ที่น่ารักมาก และตัวมันจะหอมมากเพราะมันจะกินแต่ผลไม้ พอฉี่เสร็จหมีขอจะเอาหน้าท้องถูฉี่ของตัวเองทำให้หอมเหมือนป๊อบคอร์น หอมมาก น่ารักมากด้วยเพราะชอบเกาะแข้งเกาะขา และเราได้ใช้ความรู้ที่ได้มาจากการอบรมแล้วเย่ๆ
เจลลี่ปกติผมหากินกลางคืนกลางวันป๋มเลยหลับฮับ
     คนจะเข้าใจว่าเม่นจะสลัดขนเพื่อป้องกันตนเองแต่ความจริงแล้วเม่นจะวิ่งหนีศัตรูเร็วมากแล้วหยุดปึ๊งงงงงง สัตว์ที่ตามมาทีหลังทำไงหล่ะ ชนสิคะ เลยโดนขนเม่นตำไปเลย ดีใจที่ได้ใช้ความรู้ที่อบรมมาให้ข้อมูลเพื่อนและเด็กๆ 
เราสลัดขนไม่ได้นะเว่ยเฮ้ย
 ตอนแรกไม่คิดว่าการทำงานอาสาสมัครจะสนุกขนาดนี้ ยิ่งได้ทำยิ่งรู้สึกสนุกเพราะได้เจอกับพี่ๆที่สวนสัตว์น่ารักทุกคนและที่สำคัญสัตว์น้อยน่ารักต่างๆนั่นเอง
 
 ***วันที่6 ก.ย ช่วงเช้าตั้งแต่ 9โมงจนถึงเที่ยง จะมีเด็กๆจากโรงเรียนสงขลาพัฒนาปัญญามาที่สวนสัตว์ใครสนใจมาร่วมเป็นอาสาสมัครสวนสัตว์กันได้นะคะ หรือถ้าไม่สะดวกอยากจะบริจาคเสื้อผ้าหรือหนังสือให้น้องๆก็ได้ค่ะ

See u @ Songkhla Zoo